ยาขิง ตรา ทองทรงไทย
สูตรร้อนสมุนไพรธรรมชาติ บรรเทาอาการปวดเมื่อยอย่างล้ำลึก
ในช่วงที่ผ่านมามี ทั้งฝนตก โควิด หรือว่าอากาศแห้งฝุ่น PM2.5 เยอะ ทำให้ใครหลายคน มีอาการ ไอ เจ็บคอ ไม่สบาย การทานขิงก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ช่วยบรรเทาอาการได้ อีกทั้งขิงยังเป็นยาและมีประโยชน์มากมาย
มารู้จักกับขิง
ขิงเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง เป็นพืชล้มลุก อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ ข่า ขมิ้น มีลักษณะเป็นเหง้าหรือลำต้นใต้ดินที่มีกลิ่น รสชาติเผ็ดร้อน มีคุณสมบัติเป็นยาได้ และสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งนำมาประกอบอาหาร หรือนำมาทำเป็นยาสมุนไพรที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณก็ได้เช่นกัน
8 สรรพคุณและคุณประโยชน์จากขิง
· เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
ขิงมีน้ำมันหอมระเหยที่เรียกว่า จินเจอร์รอล (Gingerol) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟีนอล มีส่วนกระตุ้นและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพราะสารต้านอนุมูลอิสระจะมีหน้าที่ในการจับและยับยั้งอนุมูลอิสระ แม้ว่าโดยปกติแล้วร่างกายของเราสามารถสร้างสารต้านอนุมูลอิสระได้ แต่จะสร้างได้ในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องบริโภคผัก ผลไม้ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
· ป้องกันไข้หวัด
อย่างที่ได้กล่าวไปว่าในขิงมีสาร จินเจอร์รอล (Gingerol) ที่นอกจากจะต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการทำลายและลดการสะสมของไวรัสในระบบทางเดินหายใจได้ ดังนั้นขิงจึงมีสรรพคุณในการต่อสู้กับโรคหวัดและอาการไข้ได้
· แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน
ขิงสามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการเมารถหรือเมาเรือ รวมถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการจากการแพ้ท้องด้วยเช่นกัน
· ขิงช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร
เพราะขิงช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย เนื่องจากในขิงมีสาร ซิงเจอโรน (Zingerone) ที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย จึงสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (E.coli) ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วง และอุจจาระเหลวได้
· ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ขิงมีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยกระตุ้นการเผาผลาญกลูโคสในร่างกาย โดยช่วยให้เซลล์กล้ามเนื้อกับเซลล์ไขมันนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานมากขึ้นเป็นการเพิ่มการเผาผลาญให้กับร่างกาย
· ลดอาการท้องอืด
ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและบรรเทาอาการระคายเคืองในลำไส้ ทำให้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นท้อง บรรเทาลงได้
· บรรเทาอาการปวดไมเกรน
สารจินเจอร์รอล (Gingerol) ยังมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบและลดอาการปวดในร่างกายได้ เพราะสารตัวนี้จะช่วยลดการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ที่ทำให้เกิดอาการปวดและอักเสบ รวมถึงคนที่ปวดประจำเดือนด้วยเช่นกัน
· ลดกลิ่นปาก และ รักษาสุขภาพช่องปาก
เพราะสารต้านเชื้อแบคทีเรียในขิง มีส่วนช่วยในการลดกลิ่นปากและลดคราบพลัคแบคทีเรียในช่องปาก รวมถึงลดการปวดฟันและอักเสบได้อีกด้วย
ข้อควรระวังในการรับประทานขิง
• เนื่องจากขิงมีรสเผ็ด มีฤทธิ์ร้อน จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูง เช่น ผู้ที่เหงื่อออกมาก หรือผู้ที่เพิ่งออกกำลังกายก็ควรรับประทานอย่างระมัดระวัง
• อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสำหรับสตรีมีครรภ์ได้
• ถ้าหากทานขิงในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอักเสบ จนเกิดเป็นร้อนในได้ ต้องทานในปริมาณที่พอเหมาะ
• ขิง ช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือด จึงทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น ดังนั้นผู้ที่รับประทานยาสลายลิ่มเลือดควรงดบริโภคขิง เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดห้อเลือดหรือมีเลือดออกได้